เลือกดูหัวข้อที่สนใจ
ถ้าใครเคยได้ยินคำว่า Content is King การสร้างคอนเทนต์นี่ คือ เรื่องจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้สำหรับการทำการตลาดบนเพจเฟสบุคโดยไม่ได้ทำSEO แม้ว่าจะมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผลลัพธ์การขายสำเร็จผลก็ตาม เพราะฉะนั้นนี่คือ บทความที่จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางการสร้างคอนเทนต์บนเฟสบุคได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแบบไม่เหนื่อยเปล่า
ข้อดีของการสร้างคอนเทนต์ให้เกิดความน่าสนใจ
ในยุคที่การแข่งการด้านธุรกิจหนักหนาขนาดนี้ ความครีเอทีฟ ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกนำเสนอผ่านคอนเทนต์ จะช่วยให้คุณจัดการเรื่องการตลาดได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่ายิ่งคอนเทนต์ดี ยิ่งช่วยให้ทำอะไร ๆ ตามมาได้ง่ายขึ้น ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือค่ายิงแอดฯ ที่ถูกลง เพราะคอนเทนต์มีคุณภาพ การมีส่วนร่วมของผู้คนมากขึ้น และนอกจากนี้ยังทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถืออีกทางหนึ่งด้วย
ลงคอนเทนต์ที่มีประโยชน์
เป็นหัวใจแรกของการเขียนคอนเทนต์ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว ทว่าเป็นสิ่งที่ผู้ชมอ่านแล้วจะได้รับความรู้ อ่านแล้วไม่รู้สึกเสียเวลา ซึ่งอาจเลือกใช้เป็นคอนเทนต์ที่ช่วยแก้ปัญหา, คอนเทนต์ไม่ยืดเยื้อ เน้นสั้น ๆ กระชับใจความให้เข้าใจง่าย และประหยัดเวลา, เลือกใช้คอนเทนต์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ที่สำคัญทั้งหมดนี้จะต้องตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของคุณด้วย
เพิ่มคีย์เวิร์ดเพื่อ SEO ลงไปเพื่อให้ค้นหาง่าย
คอนเทนต์ที่สามารถค้นหาได้ง่ายจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ชมจะเห็นได้โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินจ่าย วิธีการง่าย ๆ ก็คือการใส่ “คีย์เวิร์ด” ที่มีความเกี่ยวข้อง และต้องเคยมีปริมาณการค้นหาเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าแม้เฟสบุคจะเป็นโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีช่องสำหรับค้นหาคำต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องการไม่ต่างจาก Google ทีนี้ก็ต้องสร้างคอนเทนต์ที่คิดว่า คนค้นหาคีย์เวิดนี้ พวกเขาต้องการอะไร? จะช่วยให้ผู้ชมมองเห็นคอนเทนต์ของคุณอยู่ในอันดับแรก ๆ หรือพวกเขาก็ใช้วิธีค้นหาจนเจอ และพบว่าข้อมูลของคุณตอบโจทย์สิ่งที่พวกเขากำลังหา การเรียนรู้ที่จะใช้วิธีนี้ อย่าลืมคิดในมุมของผู้คนหาด้วย จะได้รู้ว่าคอนเทนต์ที่ควรสร้างนั้นควรเกี่ยวกับอะไร พอผู้ชมเปิดเข้าไปแล้ว จะได้ไม่ปิดหนีไป เพราะเจอคำตอบในคอนเทนต์ของคุณแล้วนั่นเอง
จัดตำแหน่งเนื้อหาสำคัญให้อยู่ด้านบน
การจัดลำดับความสำคัญของพารากราฟ กรณีที่เป็นบทความ หรือจะเป็นวิดีโอก็ตามที แนะนำว่าทุกอย่างควรอยู่ตอนต้น ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกน่าเบื่อ คอนเทนต์ที่ดีจะต้องสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ไม่ใช้ภาษายาก ๆ โดยเฉพาะการทำวิดีโอตัดต่อ บอกเลยว่าการจะทำให้คนดูจนจบนั้นเป็นเรื่องที่คุณต้องขบคิดอย่างหนักเลยทีเดียว การสะกดความสนใจพวกเขาให้ได้ภายใน 3 วินาทีแรก มีโอกาสสูงที่ผู้ชมจะดูต่อไปอีก ส่วนคอนเทนต์แบบบทความก็หนักหนาไม่แพ้กัน บอกเลยว่าสิ่งสำคัญผู้อ่านจะต้องกวาดสายตาเจอในบรรทัดแรก ๆ เพราะสื่อสมัยนี้แข่งขันเอาชนะกันเพื่อให้เป็นที่หนึ่งในการรายงาน ผู้คนส่วนมากจึงมีพฤติกรรมในการอ่านที่น้อยลง อะไรที่หาเจอได้ยาก จะทำให้พวกเขาปฏิเสธ ไถฟีดหนีไปหาความน่าสนใจอื่น ๆ แทน
เลือกหัวข้อเป็นเทคนิคหรือ How to
การเปิดเรื่องด้วยเทคนิคหรือ How to ซึ่งยังเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม เพราะนี่คือสิ่งที่ผู้คนสนใจ เหมือนเป็นวิธีแก้ปัญหา หรือเทคนิคที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์แชร์ไอเดียเคล็ดลับ การเขียนทางออกของปัญหา โดยการทำข้อมูลเหล่านี้ แนะนำว่าคุณจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อช่วยให้เขียนได้เหมือนผู้เชี่ยวชาญ การเขียนคอนเทนต์ที่ผิดพลาด จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ แต่ถ้าคอนเทนต์นั้นทำให้พวกเขาเชื่อ และมีประโยชน์ จะเกิดการมีส่วนร่วมขึ้น โดยเฉพาะการกดแสดงอารมณ์ การแสดงความเห็น และแชร์ส่งต่อให้เพื่อน ๆ ของพวกเขาอ่านแบบไม่ต้องเสียเงินในการทำโฆษณาอีกด้วย
สำรวจคอนเทนต์เด็ด ๆ ของคู่แข่ง
ถ้าหัวตัน ๆ เหมือนจะหาคอนเทนต์ไม่ได้ แนะนำว่าให้ลองไปหาไอเดียจากคู่แข่งของเรานั่นเอง! ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์แบบบทความหรือแบบวิดีโอ ลองศึกษาว่าคู่แข่งสื่อสารอะไรออกมา แล้วทำไมเขาถึงสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ เจอคอนเทนต์ไหนที่ดูแล้วปัง ลองวิเคราะห์ จากนั้นให้นำมาประยุกต์ใช้ ย้ำว่าต้องเอามาประยุกต์ใช้ ไม่ใช่ลอกมาทั้งดุ้น ไม่เช่นนั้นเฟสบุคจะมองว่าเนื้อหาของคุณดูซ้ำซากน่าเบื่อ ผู้ชมก็รู้สึกว่ารู้อยู่แล้ว เคยเห็นมาแล้ว ดูไม่โดดเด่นไปกว่าของคนอื่นเลย ดังนั้นการไปสำรวจคู่แข่ง ก็คือการออกไปค้นหาไอเดีย แล้วนำมาต่อยอดในแบบของตัวเองให้ดีกว่าเขา เอาชนะคู่แข่งให้ได้ในแบบของเรานั่นเอง
อย่างไรก็ตามการสร้างคอนเทนต์ในยุคนี้ แม้จะน่าสนใจแค่ไหน แต่คุณจะต้องไม่ลืมว่ามันควรเป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้า และบริการของตัวเองด้วย ก็เพื่อช่วยให้พวกเขารู้จัก จดจำแบรนด์สินค้าได้ นอกจากนี้การทำคอนเทนต์แบบเพียว ๆ อาจยังไม่ได้ประสิทธิภาพมากพอ การยิงแอดฯ ทำโฆษณาเฟสบุค ยอมจ่ายเงินให้เฟสบุคด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณกับลูกค้าเข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น
เครดิต: บริษัท ซี๊ดดิจิเทนท์ จำกัด