ทริคเพิ่ม Engagement การมีส่วนร่วม ให้เพจเฟสบุ๊กปัง ๆ แบบประหยัดงบ

ทริคเพิ่ม Engagement

ยอด Engagement หรือการมีส่วนร่วมใน เพจเฟสบุ๊กนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเปิดเพจขึ้นมาเพื่อขายสินค้าหรือบริการ… อย่าเอาแต่ใจร้อนหาทางปิดการขายอย่างเดียว การยิงแอด Facebook Page แบบถล่มทลาย เพื่อเป้าหมายให้มีลูกค้าทัก พอผ่านไปสักชั่วโมงผลลัพธ์ไม่ได้ดั่งใจ ก็ปิดแอดฯ ไปแบบไม่รอผลอย่างอื่นกันเลย! แบบนี้ต้องทำความเข้าใจใหม่ และต้องเริ่มหันมาใส่ใจกับค่า “การมีส่วนร่วม” ที่เกิดขึ้นในแต่ละโพสต์ด้วย เพราะสิ่งนี้กำลังบอกถึงความน่าสนใจของคอนเทนต์ของคุณว่าดีหรือไม่ดี พร้อมมาเรียนรู้เทคนิคกระตุ้นยอด Engagement ให้ดีขึ้น

Engagement ในเพจเฟสบุ๊ก คืออะไร?

Facebook Engagement คือ การที่ผู้คนมีส่วนร่วมกับโพสต์ เพจเฟสบุ๊ก หรือโฆษณาของคุณที่ปรากฏขึ้นมา โดยการมีส่วนร่วมนี้ต้องเข้าใจด้วยว่า ไม่ใช่แค่การทัก แต่เหมารวมทั้งการแสดงพฤติกรรมเหมือนกับสนใจโพสต์นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็น, การแชร์คอนเทนต์, การกดไลค์, การกดแสดงความรู้สึก, การกดโพสต์เข้าไปดูรูปภาพ ไปจนถึงการคลิกโพสต์นั้น ๆ เฟสบุ๊กจะนับรวมยอดเหล่านี้เข้าไว้ด้วย เหมือนกับเราสื่อสารเรื่องราวสินค้าหรือบริการออกไปในรูปแบบคอนเทนต์ต่าง ๆ แล้วมีคนที่สนใจสื่อสารตอบกลับมา แม้ว่าในปัจจุบันค่าการมีส่วนร่วมจะถูกลดความสำคัญลง ทว่ามันกลับยังถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในการวิเคราะห์เนื้อหา เมื่อผู้คนมีส่วนร่วมมาก เจ้า algorithm อันชาญฉลาดของเฟสบุ๊กก็จะประมวลผลร่วมกับปัจจัยอื่น เห็นความสำคัญของโพสต์ เริ่มเพิ่มการมองเห็น นั่นเท่ากับว่าถ้าคุณเปิดการทำโฆษณาแล้วล่ะก็ งบประมาณที่ใช้จะถูกลงตามไปด้วย

เทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอด Engagement

ข้อมูลต่อไปนี้คือเทคนิคที่เราคัดสรรมาเพื่อใช้สำหรับการทำการตลาดออนไลน์บนช่องทางเพจเฟสบุ๊ก ให้ทุกคนที่กำลังเริ่มต้นทำการตลาด หรือรู้สึกว่าช่วงนี้ไอเดียตัน ๆ คอนเทนต์ไม่ปังดั่งใจ ได้ลองนำไปใช้ จะได้ช่วยให้ส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้นได้

1. สร้างคอนเทนต์ เน้นคุณภาพ อย่าคิดว่าคอนเทนต์คือการเขียนบทความที่มีภาพประกอบเท่านั้น แต่จงเข้าใจเสียใหม่ว่าคอนเทนต์คือการสื่อสารผ่านรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความ, วิดีโอ, การไลฟ์สด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคอนเทนต์ได้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญก่อนจะเกิดคอนเทนต์หนึ่ง ๆ ขึ้นมา คุณจะต้องตกผลึกก่อนว่ากำลังจะเขียนเรื่องอะไร เพื่อใคร แล้วพวกเขาจะได้อะไร ส่วนคุณได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา ดังนั้นหมั่นพัฒนาคุณภาพของการสื่อสารนี้อย่างสม่ำเสมอ ถือว่าเป็นหนึ่งในการตลาดที่สำคัญ และถ้าคุณสร้างคอนเทนต์ที่ดีขึ้นมาได้ มันอาจกลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืนเลยก็ได้

2. เลือกโพสต์ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดให้คุณพิจารณาช่วงเวลาที่ดีที่สุดจากวันที่มีผู้คนออนไลน์ในFacebook Page มากที่สุด ร่วมกับการดูช่วงเวลาที่คนเข้ามาไลค์, คอมเมนต์ หรือแชร์โพสต์ของคุณ ดูว่าช่วงไหนที่มีการกระทำเหล่านี้มากเป็นพิเศษ จากนั้นจดบันทึกเอาไว้ แล้วลองโพสต์ในช่วงเวลาแบบเดิม ๆ เพื่อดูการเข้าถึงว่าเหมือนกันหรือไม่ คุณก็จะได้วันและเวลาที่ดีที่สุดที่ผู้ชมจะมองเห็นโพสต์ของคุณ และเลือกโพสต์สำคัญ ๆ ในช่วงเวลาเหล่านี้มาใช้ด้วย จึงจะได้ประสิทธิภาพที่ดี

3. ทำให้เกิดการแสดงความเห็นในโพสต์ พยายามติดตามข่าวสาร เขียนสิ่งที่คนอื่นอยากรู้ เปิดเรื่องด้วยปัญหา หรือสิ่งที่น่าสงสัย และปิดจบด้วยการตั้งคำถาม เพื่อให้คนที่เข้ามาเห็นอยากจะแสดงความคิดเห็นในคอนเทนต์ของคุณ หรือการแชร์ต่อไปเพื่อโพสต์ในเฟสบุ๊กของตัวเอง  ซึ่งช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้นในคอนเทนต์ดังกล่าว ผู้คนจากแหล่งอื่น ๆ ก็จะเข้ามามีส่วนร่วม โดยที่คุณอาจแทบไม่ต้องจ่ายเงินค่ายิงแอดฯ เลยก็ได้

สิ่งที่ไม่ควรทำในการเรียกยอด Engagement

ในยุคที่ Facebook Page มีฟังก์ชั่นมากมายให้เราได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, Reel, Caresoul ฯลฯ เราอาจหลงทางไปกับการใช้งานแบบผิด ๆ เพื่อหวังผลให้คนเข้ามามีส่วนร่วมรู้จักแบรนด์ของตัวเอง รู้จักตัวตนและชื่อเพจมากขึ้น ด้วยวิธีการโพสต์เรียกยอดที่ “ไม่เกี่ยวข้อง” กับสินค้าหรือบริการในเพจเลยแม้แต่น้อย และสิ่งนี้เราเห็นได้ทั่วไป เช่น เปิดเพจเพื่อขายอาหาร แต่กับแชร์โพสต์ข่าว หนังเรื่องโปรด หรือเรื่องดารา ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยสักนิด แม้จะมีคนเข้ามาแสดงความเห็นหรือมีการ discuss กันเกิดขึ้นก็ตาม ทว่าผู้คนเหล่านั้นก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย พวกเขาแวะมา แล้วก็ไป เป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่เสียเวลา และยังส่งผลในแง่ลบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถืออีกด้วย

ข้อมูลทั้งหมดที่แนะนำไปข้างต้นนั้น ต้องเข้าใจด้วยว่าการสร้าง Engagement หรือการมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์หรือเพจ ไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้ายในการทำการตลาด ดังนั้นคุณผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ธุรกิจ หรือเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ จะต้องไม่หยุดเรียนรู้พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ที่เพจเฟสบุ๊กมีให้เลือก ยิ่งรู้จักพวกเขามาเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คุณรังสรรค์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ เมื่อมีฐานของผู้สนใจเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็เท่ากับว่าคุณจะได้ Data มาชุดหนึ่งเพื่อนำไปสู่การคัดกรองหาผู้ชมที่พร้อมจะเป็นลูกค้าของคุณตามมาในอนาคต แม้จะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ แต่บอกเลยว่าการทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป สามารถศึกษาข้อมูลข้อควรรู้ที่คุณต้องรู้ ! ก่อนสร้าง Facebook page ให้ได้ผลลัพธ์ตรงเป้า จะช่วยสร้างความมั่นคงให้ธุรกิจของคุณได้ เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้นี่แหละ

เครดิต: บริษัท ซี๊ดดิจิเทนท์ จำกัด