การสร้าง Content Marketing สำหรับเฟสบุค

การสร้าง Content Marketing สำหรับเฟสบุค

6 สไตล์การสร้าง Content Marketing สำหรับเฟสบุค ช่วยกระตุ้นยอดการมีส่วนร่วมให้ปังๆ

ใครที่กำลังงง ๆ กับการทำการตลาดที่เรียกว่า Content marketing ในเฟสบุ๊ค ซึ่งมีเป้าหมายหลักก็คือการขายสินค้า จะทำยังไงให้ปัง และได้ตังค์ลูกค้ามาอยู่ในมือ…? ต้องบอกก่อนว่าพฤติกรรมคนซื้อยุคนี้ฉลาดขึ้น เท่าทันการขาย โดยเฉพาะการรีวิวที่จะต้องแนบเนียน ไม่ดูปลอม ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบ วิดีโอ, ข้อความ, สื่อเคลื่อนไหว, กราฟฟิก ฯลฯ โดยเป้าหมายสูงสุดของการทำ Content marketing ก็เพื่อต้องการให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จัก และขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นนี่คือ แนวทางที่จะช่วยสร้างคอนเทนต์ของคุณให้ปัง ถือว่าเป็นไอเดียนำไปประยุกต์ใช้ได้มากเลยทีเดียว

1. เล่นกับ Pain Point

คำ ๆ นี้หมายถึง ปัญหาหรือจุดอ่อนของลูกค้า ซึ่งถ้าคุณรู้ว่า Pain point ของลูกค้าคืออะไร สามารถนำมาใช้อธิบายในคอนเทนต์ เพื่อจี้จุดให้พวกเขารู้สึกว่าคุณคือมืออาชีพที่เข้าใจปัญหาได้อย่างตรงจุด จากนั้นก็ทำการออกแบบปัญหาให้ลูกค้า โดยเสนอทางออกผ่านคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่ต้องการ พยายาม Tie-in สินค้าไม่ให้เยอะจนดูน่าเกลียดเกินไป ซึ่งจะต้องเข้าใจด้วยว่า ลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าเพียงเพราะจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร แต่เพราะสิ่งนั้นช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้ เรียกได้ว่ามีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง

2. รีวิวด้วยวิดีโอแบบสั้น ๆ

ถ้าเล่นโซเชี่ยลมีเดียกันเป็นประจำ เราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Facebook ที่มีคอนเทนต์แนววิดีโอมากขึ้น และมีฟังก์ชั่น Reel ที่เพิ่มขึ้นมา เป็นแนววิดีโอสั้น ๆ ซึ่งเทรนด์นี้เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้วใน TikTok แต่เริ่มแพร่หลายมากขึ้น เพราะคอนเทนต์มีความหลากหลาย ดึงดูด ชวนติดตาม ที่สำคัญใช้เวลาดูไม่นานเท่านั้น การจะดึงแบรนด์เข้าไปสร้างความน่าสนใจด้วยวิดีโอแบบสั้น ๆ สามารถใช้การรีวิว และตัดต่อเพิ่มความเร็ว โดยไม่ต้องใช้คำพูดมากมายนัก แต่เน้นให้เห็นสินค้า และประโยชน์จากการใช้งานที่ชัดเจน ก็ช่วยให้ผู้คนรู้สึกสนใจขึ้นมาได้แล้ว

3. เสริมด้วยโปรโมชั่นการตลาดที่จริงใจ

การขายสินค้าจะต้องมีโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้าเอาไว้แบบขาดไม่ได้ แต่สิ่งที่จะช่วยให้พวกเขาสนใจคอนเทนต์ขายแแนวนี้คือการส่งเสริมด้วยวิธี ลด แลก แจก แถม อย่าง “จริงใจ” ก่อน คือ การแจกโปรโมชั่นแบบไม่มีอะไรซ่อนเร้น บอกลูกค้าไปตรง ๆ เลยว่าพวกเขาจะได้อะไร ถ้าทำตามกิจกรรมที่เสนอให้ โดยคุณสามารถเลือกวิธีการใช้โปรโมชั่นด้วยวิธีคอมเมนต์ หรือไลค์ ให้เกิดการมีส่วนร่วม และยิงแอดเฟสบุคเพิ่มเข้าไปในแบบ Engagement จะได้ช่วยกระตุ้นให้คนเข้าถึงคอนเทนต์ได้มากขึ้น

4. คอนเทนต์ที่ล้อไปกับเทรนด์

คอนเทนต์ตามเทรนด์เรียกว่า Real time contents ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณนั้นดูติดตามข้อมูลข่าวสาร ไม่ตกยุค ด้วยการหยิบเอาไวรัลต่าง ๆ มาสร้างสรรค์ใหม่ให้เข้ากับแบรนด์ โดยเลือกเน้นที่ความสนุก เพราะกลุ่มเป้าหมายจะรู้สึกชอบ และอยากมีส่วนร่วมไปด้วย ทั้งนี้การปล่อยคอนเทนต์แบบ Real time จะต้องเร็ว และอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่งั้นจะกลายเป็นช้า ตกขบวนเอาได้ อย่างไรก็ตามต้องระมัดระวังไวรัลบางอย่าง ที่เอามาเล่นแล้วอาจกลายเป็นดราม่า เสียภาพลักษณ์แบรนด์สินค้า ดังนั้นต้องเลือกใช้ให้ดี อย่าหมิ่นเหม่ไปกับสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้คน

5. เน้นเข้าใจง่าย กดแชร์สะดวก

คอนเทนต์ยุคนี้ควรเป็นแบบที่ย่อยง่าย เข้าถึงได้แบบไม่ต้องคิดตามให้นาน เพราะถ้าคนที่เห็นรู้สึกว่าคอนเทนต์เข้าใจยาก พวกเขาก็พร้อมที่จะปัดหนีไปแบบไม่ไยดี หรือการอรัมภบทมากจนเกินไป ทำให้รู้สึกว่าไม่เข้าเรื่องสำคัญที่ต้องการนำเสนอสักที แบบนี้ต้องเลือกเปลี่ยนเป็นคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ ซึ่งที่นิยมใช้กันมากขึ้นเห็นจะเป็นแบบ Quote Content ที่แปะอยู่ในรูปภาพ ทำให้คนหยุดอ่าน เป็นคำคม คำสอน หรือคำตลก ๆ ที่ให้มีความสัมพันธ์กับแบรนด์ เวลาที่คอนเทนต์โดนใจผู้อ่าน พวกเขาก็อยากจะกดแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว เพิ่มการมองเห็นแบบออแกนิคให้กับสินค้าของคุณได้แบบประหยัดงบ

6. Evergreen Content ไม่เคยตาย

ถือว่าเป็นคอนเทนต์ประเภทที่ได้รับความนิยมเสมอมา คือ ลักษณะของคอนเทนต์ที่ผู้คนมักจะค้นหา หรือสนใจอยู่เสมอ ๆ แตกต่างจากคอนเทนต์ข่าว ที่ตกยุคไปตามเวลา การนำเสนอคอนเทนต์ในแนว Evergreen ที่ดี แม้จะเป็นเรื่องเดิม ๆ แต่จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างสรรค์ให้ดูสดใหม่อยู่เสมอ แม้จะดูยาก แต่เราสามารถที่จะหยิบเอาเรื่องใกล้ตัวมาทำคอนเทนต์ได้โดยการใส่ไอเดียที่น่าสนใจเพิ่มเข้าไป ซึ่งจะได้ทราฟฟิกทั้งจากการค้นหา และการไถเจอในหน้าฟีดของเฟสบุค ข้อดีของการสร้างคอนเทนต์แบบนี้ ยังถือว่าช่วยกรอง ได้กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการเข้ามาแบบไม่ต้องเสียเวลาตามหา

การทำ Content marketing ในยุคนี้สำหรับช่องทางเฟสบุค และ การยิงแอดfacebook ads จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ได้เหมือนกัน ก็เพราะการแข่งขันที่สูงและเร่งรีบไปเสียหมด ดังนั้น ถ้าหากคุณต้องการเข้าถึงลูกค้าจนถึงขั้นปิดการขายได้แบบที่ต้องการแล้วล่ะก็ จะต้องเริ่มด้วยการวางแผนงานให้ดี วิเคราะห์พฤติกรรม เปรียบเทียบคอนเทนต์ ที่นำเสนอไปว่าแบบไหนที่พวกเขาให้ความสนใจมากกว่า จากนั้นก็ค่อย ๆ พัฒนา บริษัท ซี๊ดดิจิเทนท์ ที่มีบริการทำseo และยังมีการเก็บสถิติเอาไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการมองหากลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงต่อไป

เครดิต: บริษัท ซี๊ดดิจิเทนท์ จำกัด