การค้าขายออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะการขายของในเฟสบุ๊ค มีทั้งแม่ค้าพ่อค้ามือใหม่และมือเก๋าที่ต่างกำลังแข่งขันกันอย่างหนักในทุก ๆ วัน และอาจเรียกได้ว่าตลอด 24 ชั่วโมงไม่เคยเว้น ใครเร็วก็ได้ไปก่อน ใครช้าก็อาจพลาดท่า หากไม่มีแผนสำรองเอาไว้ บางคนขายสินค้าทั้งบนแฟนเพจ หรือที่เรียกกันว่า Business page หรือบางคนก็ขายในช่องทางโปรไฟล์ส่วนตัวที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ หลายคนที่คิดแค่จะขาย แต่ไม่รู้บนแพลตฟอร์มเฟสบุ๊คนั้น ความแตกต่างระหว่าง Profile กับ Page แตกต่างกันอย่างไร อาจทำให้เดินผิดทาง ดังนั้นเพื่อการสร้างฐานลูกค้าที่ยั่งยืน การทำความเข้าใจเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ จะได้ทำการตลาดได้ถูกช่องทาง
เปรียบเทียบโปรไฟล์ เพจ และกลุ่มบน Facebook ในการขายของในเฟสบุ๊ค
ความแตกต่างระหว่างโปรไฟล์ส่วนตัว และแฟนเพจ ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นนี่คือสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ควรตั้งใจอ่านให้ดี!
- โปรไฟล์ส่วนตัว – คำว่า “ส่วนตัว” ก็บอกเราอยู่แล้วว่านี่คือช่องทางสำหรับเอาไว้ใช้สื่อสารกับเพื่อน ๆ และคนรู้จัก เป็น Social media ที่มีชื่อของเรา และโปรไฟล์ที่บอกให้รู้ว่านี่คือตัวเราบนโลกออนไลน์ รวมถึงรายละเอียดของบ้านเกิด, การศึกษา, ความสนใจ, ประเทศที่อยู่อาศัย ฯลฯ เหมือนกับเป็นพื้นที่เอาไว้ให้คนอื่นเข้ามาดูว่าเราคือใคร การทำงานของระบบโปรไฟล์ส่วนตัวที่เฟสบุ๊คออกแบบขึ้นมา เมื่อคุณเขียนข้อความอะไรบางอย่างลงในหน้า Feed ของตัวเอง แล้วระบบ AI เห็นว่าเป็นการสื่อสารเพื่อพูดคุยกับเพื่อน ๆ เช่น การโพสต์เมนูอาหารประจำวัน หรือการเซลฟี่กับเพื่อน ๆ จะมีปริมาณการเข้าถึงที่ดี มีคนมองเห็นเยอะ เข้ามากดไลค์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก
แต่ในขณะที่คุณพยายามจะขายสินค้าผ่านช่องทางนี้ ขายของในเฟสบุ๊คมันกลับกลายเป็นขั้วตรงข้าม เฟสบุ๊คจะปิดการมองเห็นให้เหลือเพียงเล็กน้อย โอกาสที่จะขายสินค้าได้ถือว่ายากมาก ๆ ด้วยระบบ AI อัจฉริยะที่ตรวจจับคำและดูภาพเข้าใจมากขึ้นว่า คุณกำลังขายของผ่านโปรไฟล์ส่วนตัวอยู่หรือไม่? มากที่สุดก็อาจเป็นยอดไลค์ ไม่มีคนเข้ามาคอมเมนต์ เพราะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของคุณไม่ใช่เพื่อน ๆ ที่มี และโปรไฟล์ส่วนตัว ก็จะไม่ถูก Suggestion ไปยังหน้า Feed หลักของเฟสบุ๊คด้วย โอกาสเดียวที่คุณจะขายได้ดีในที่นี้คือ การบอกเพื่อนของคุณให้มาซื้อ หรือเพื่อนที่สนใจไถมาเจอเท่านั้น
- แฟนเพจ – เฟสบุ๊คแฟนเพจ หรือ Business Page หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่าเพจ ให้มองว่าตรงนี้คือพื้นที่ส่วนตัวอีกแห่งหนึ่งของเรา แต่คนอื่นสามารถที่จะแวะเดินเข้ามาเยี่ยมชมได้ และ สามารถใช้ช่วยส่งเสริมการขายของได้ แล้วยังมีหลายหมวดหมู่ให้เลือกว่าคุณต้องการที่จะสร้างพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นเพจร้านค้า, เพจธุรกิจ, เพจแฟนคลับ,เพจศิลปิน, เพจรีวิว ฯลฯ ได้ตามต้องการ
ซึ่งที่เราจะกล่าวถึงก็คือหมวดหมู่ “ร้านค้า” ซึ่งเราสามารถที่จะลงโปรโมทสินค้าของตัวเองด้วยโพสต์ปกติ หรือโพสต์แบบยิงโฆษณาช่วยกระตุ้นการมองเห็นก็ได้
ข้อดีในการทำการค้าขายบนเพจนั้นคือการที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่คือคนที่เราไม่รู้จัก แต่อาจจะมีความสนใจในสินค้า
เพจยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยตอบโจทย์ให้การขายของคุณง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใส่รายละเอียดสินค้าได้ เช่น กาายิงโฆษณา faceboof ads และช่องทางการปิดการขาย มีปุ่มให้ลูกค้าติดตามและไลค์เพจ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้า และจ่ายเงินผ่านการแชทของเพจได้เลยอีกด้วย ส่วนผู้ขายก็สามารถเก็บประวัติลูกค้าเอาไว้ได้ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลวิเคราะห์การตลาดในอนาคต ที่สำคัญคือสามารถยิงโฆษณา ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจจริง ๆ ได้ ต่างจากโปรไฟล์ส่วนตัวที่ไม่สามารถทำได้
ควรใช้ช่องทางไหนของเฟสบุ๊คในการขายของออนไลน์?
จะเห็นได้ถึงความแตกต่างระหว่าง ขายของในเฟสบุ๊ค หรือเพจเฟสบุ๊ค และบัญชีส่วนตัวที่ใครอยากจะขายสินค้า ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น การสร้างเพจจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่า เป็นช่องทางที่เราควรเลือกใช้ ถ้าใครที่คิดว่าจะเปิดขายในพื้นที่โปรไฟล์ส่วนตัว เพราะคิดว่ามีเพื่อนในนั้นอยู่มากหลายพันคน บอกได้เลยว่าเป็นช่องทางที่ผิดมาก ๆ เพราะพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้มีเอาไว้ขาย แต่เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารต่างหาก คุณจะต้องแยกแยะการใช้งานให้เป็น เรียนรู้การทำงานของเฟสบุ๊คให้มาก และเข้าใจด้วยว่าแพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นมามีวัตถุประสงค์ใดเป็นหลักด้วย จะช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ขายสินค้าออกมาได้เหมาะสม เป็นที่ชื่นชอบของระบบ และลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน
แต่ละประเภทของการสร้างบัญชีในแพลตฟอร์มเฟสบุ๊ค คุณจะต้องใช้มันให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม ส่วนที่เหลือก็คือการเลือกสินค้าที่นำมาจำหน่าย การทำตลาดให้ดี เพื่อค้นพบกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเรา ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายได้ง่าย เสียงบค่าโฆษณาน้อยลง ต่างกับการทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ต้องทำseo และต้องใช้กาายิงโฆษณา google ads
ไม่แน่ว่าในอนาคต คุณอาจกลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ผู้คนติดตามมากกว่าแสนคน แบบนี้คุณจะได้มากกว่าแค่การขายสินค้า เผลอ ๆ อาจนำเพจที่มียอดติดตามเยอะไปขายในราคาเลข 6 หลัก หรือมีบริษัทยักษ์ใหญ่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอลงโฆษณา กลายเป็นพื้นที่ให้เช่า กินเงินแบบสบาย ๆ รายเดือนอีกช่องทางก็เป็นได้
เครดิต: บริษัท ซี๊ดดิจิเทนท์ จำกัด